P M I I

Loading

2025 ปีแห่งการก้าวสู่โลกการผลิตอัจฉริยะ!

   เชื่อว่าในปี 2025 อุตสาหกรรมการผลิต กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ และความต้องการตลาดที่เปลี่ยนไป นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมผู้ผู้ผลิตจำเป็นต้องติดตามแนวโน้มเหล่านี้ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และประสิทธิภาพที่ตาม

โรงงานอัจฉริยะ 

(Smart Factories)

        คือการใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อระหว่างเซ็นเซอร์, หุ่นยนต์, และ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุน โดยการปรับตารางการผลิตตามความต้องการในเวลาจริง ทำนายการซ่อมบำรุงล่วงหน้า และลดของเสียในกระบวนการผลิต รวมถึงเซ็นเซอร์ เครื่องมือที่ทันสมัยช่วยให้สามารถตรวจสอบเครื่องจักรได้ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ และลดเวลาเครื่องจักรหยุดทำงาน ส่งผลให้ผู้ผลิตสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น

การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในยุค 2025 (Supply Chain Disruption)

       การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญในปี 2025 ผู้ผลิตหลายรายเริ่มหันกลับมาผลิตในประเทศ (reshoring) และกระจายความเสี่ยงจากผู้จำหน่ายหลายราย เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดจากความตึงเครียดทางการเมืองและปัญหาพลังงาน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Blockchain และ AI ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถมองเห็นภาพรวมของห่วงโซ่อุปทานได้ชัดเจน และตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การแปลงสินค้าเป็นบริการ (Servitization)

        ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น, การแปลงสินค้าคงที่ให้กลายเป็นบริการ (servitization) กำลังเป็นเทรนด์สำคัญในอุตสาหกรรม การนำเทคโนโลยีอย่าง IoT และ Machine Learning มาใช้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเสนอบริการใหม่ๆ เช่น การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์และการตรวจสอบประสิทธิภาพล่วงหน้า ทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ อีกทั้งยังสามารถสร้างกระแสรายได้ที่คาดการณ์ได้และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างยั่งยืน

 

ความท้าทายด้านแรงงานในปี 2025 (Labor Challenges)

        อุตสาหกรรมการผลิตกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ และค่าใช้จ่ายด้านแรงงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม Life Sciences ที่ต้องการบุคลากรเฉพาะทาง เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้าน IoT หรือการใช้งานเครื่องจักรอัตโนมัติ นอกจากนี้ การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีและการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดภาระงานที่หนักและอันตราย ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการดึงดูดและรักษาพนักงาน  

       

       เพื่อรับมือกับปัญหานี้ บริษัทต่างๆ จึงหันมาเสนอผลประโยชน์ที่แข่งขันได้ เช่น ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น การฝึกอบรมพัฒนาทักษะ และการสร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน เช่น การทำงานแบบไฮบริด รวมถึงการใช้เทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์และ IoT เพื่อลดภาระงานซ้ำซ้อน

ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการผลิต (Sustainability)

        ความยั่งยืนกำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิต โดย 42% ของบริษัทใน Fortune Global 500 ได้ดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศสำคัญ หรือวางแผนที่จะดำเนินการภายในปี 2030 หลายบริษัทลงทุนในเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมความร้อนและความเย็นด้วยเซ็นเซอร์ เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน และนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในโรงงาน เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน

 

        ความพยายามด้านความยั่งยืนไม่เพียงช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลดีต่อธุรกิจด้วย จากผลสำรวจปี 2021 พบว่า 22% ของผู้ผลิตได้รับคุณค่าจากการดำเนินการด้านความยั่งยืนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และ 40% คาดว่าจะเห็นผลลัพธ์ในอนาคต เช่น การลดต้นทุนพลังงาน และการสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า


        นอกจากนี้ ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ยังเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ความยั่งยืน เช่น การรีไซเคิล ลดของเสีย การสร้างความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน และการปรับปรุงความปลอดภัยให้กับพนักงาน การปรับตัวตามเทรนด์นี้ช่วยเพิ่มนวัตกรรม สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และร่วมสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น

 

การปรับตัวตามเทรนด์ช่วยเพิ่มนวัตกรรม สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และร่วมสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น ตามกฏหมายที่กำลังบังคับใช้

เกราะป้องกันดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต (Cybersecurity)

        ในยุคที่โรงงานต่างๆ เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น เครื่องจักรอัจฉริยะและระบบเชื่อมโยงข้อมูล ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญยิ่งขึ้น อย่างในปี 2022 ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เผชิญกับเหตุข้อมูลรั่วไหลกว่า 250 ครั้ง

 

ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น
       ความเสี่ยงของการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น แรนซัมแวร์ มีแนวโน้มสูงขึ้น หากระบบการผลิตถูกโจมตี การดำเนินงานทั้งหมดอาจหยุดชะงัก จนกว่าจะมีการจ่ายค่าไถ่


ความสำคัญของความปลอดภัยไซเบอร์
        การป้องกันไม่ได้มีแค่เรื่องข้อมูล แต่ยังรวมถึงการรักษาความต่อเนื่องของการผลิต การป้องกันตารางงานไม่ให้สะดุด และการรักษาความไว้วางใจจากลูกค้า

Trips! วิธีการรับมือ:

  1. ปรับปรุง IT และ OT: ดูแลเทคโนโลยีการปฏิบัติงาน (OT) ให้ทันสมัยและปลอดภัย

  2. ตรวจสอบคู่ค้า: มั่นใจว่าซัพพลายเออร์มีมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดี

  3. อบรมทีมงาน: ให้ความรู้ด้านความปลอดภัยแก่ทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารถึงพนักงาน

ในปี 2025 และอนาคต อุตสาหกรรมการผลิตต้องเน้นการสร้างประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อปกป้องธุรกิจและลดความเสียหายจากภัยคุกคาม

Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR): พลิกโฉมการผลิตในยุคดิจิทัล

     AR และ VR ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีสำหรับความบันเทิง แต่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการการผลิตด้วยฟังก์ชันที่น่าทึ่ง เช่น การซ้อนข้อมูลเสมือนบนเครื่องจักรในเวลาจริง หรือการฝึกอบรมในสภาพแวดล้อมเสมือน

ประโยชน์สำคัญในอุตสาหกรรมการผลิต:

o   การตรวจสอบและบำรุงรักษาระยะไกล: AR และ VR ช่วยให้วิศวกรสามารถตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องจักรได้โดยไม่ต้องอยู่ในสถานที่จริง เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

o   การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ: พนักงานสามารถฝึกฝนในสภาพแวดล้อมจำลองที่ปราศจากความเสี่ยง ช่วยเร่งการเรียนรู้และเพิ่มความเข้าใจในกระบวนการ

o   การออกแบบและต้นแบบเสมือน: ช่วยให้ทีมงานมองเห็นและทดสอบโครงการในพื้นที่เสมือน ลดความผิดพลาดก่อนเริ่มการผลิตจริง

 

ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมในอนาคต:

 

     AR และ VR จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในสายการผลิต ช่วยให้การดำเนินงานมีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และแม่นยำยิ่งขึ้น ตอกย้ำความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ในโรงงานยุคใหม่

เทคโนโลยีแห่งอนาคตในอุตสาหกรรม (Digital Twins)

Digital Twins คือการสร้างสำเนาเสมือนจริงของสินทรัพย์ กระบวนการ หรือระบบในโลกกายภาพเพื่อใช้ในการทดสอบ วิเคราะห์ และพยากรณ์ โดยอาศัยข้อมูลจริงจากโลกจริงเข้ามาจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ


ประโยชน์สำคัญของ Digital Twins ในอุตสาหกรรมการผลิต:

o   การพัฒนาผลิตภัณฑ์: ผู้ผลิตรถยนต์สามารถจำลองต้นแบบเสมือนเพื่อวิเคราะห์การทำงานของชิ้นส่วนในสภาวะต่าง ๆ เช่น แอโรไดนามิกส์และความแข็งแรงโครงสร้าง โดยไม่ต้องสร้างต้นแบบจริง

 

o   การปรับปรุงกระบวนการผลิต: จำลองสายการผลิตเพื่อวิเคราะห์ปัญหาคอขวด ลดเวลาในกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น Ford ใช้ DT เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการจัดสรรทรัพยากร

 

o   การลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำ: การทดลองสถานการณ์ในโลกเสมือนช่วยลดความสูญเสียในขั้นตอนการผลิตและเพิ่มคุณภาพสินค้า


ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
Digital Twins ช่วยเร่งนวัตกรรม ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทก้าวนำหน้าด้วยการตัดสินใจที่แม่นยำ

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:

      

       Digital Twins ช่วยเร่งนวัตกรรม ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทก้าวนำหน้าด้วยการตัดสินใจที่แม่นยำ

การฟื้นคืนของนโยบายอุตสาหกรรม: เกมเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในภาคการผลิต (Industrial Policy Revival)

     นโยบายอุตสาหกรรมกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง โดยรัฐบาลมีบทบาทสนับสนุนภาคส่วนสำคัญ เช่น พลังงานสะอาดและเซมิคอนดักเตอร์ สหรัฐฯ ได้ออกกฎหมายสำคัญ เช่น Inflation Reduction Act ปี 2022 และ CHIPS and Science Act เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่ในด้านเทคโนโลยีสำคัญ 44 ประเภท จีนยังคงเป็นผู้นำใน 37 ประเภท

 

 

สาเหตุของการฟื้นคืน:

o   ปัญหาซัพพลายเชน: ความเปราะบางของการจัดหาสินค้าในตลาดโลก

o   การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: เร่งพัฒนาพลังงานสะอาด

o   การแข่งขันระดับโลก: แรงกดดันจากจีนทำให้สหรัฐฯ ต้องเร่งพัฒนา

 

 

ผลกระทบต่อภาคการผลิต:

o   สนับสนุนการเติบโตและนวัตกรรมในอุตสาหกรรม

o   เร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและสร้างความยืดหยุ่น

 

การฟื้นคืนของนโยบายอุตสาหกรรม: เกมเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในภาคการผลิต (Industrial Policy Revival)

การปฏิวัติสายการผลิตด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Advanced Robotics and Cobots)

การเติบโตของ Cobots (Collaborative Robots):
      Cobots หรือหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในโรงงาน เพราะสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในงานที่อันตรายหรือซ้ำซาก เช่น การยกของหนักหรือการบรรจุสินค้า ตลาด Cobots ทั่วโลกมีมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030

 

ประโยชน์ของหุ่นยนต์ขั้นสูง:

o   เพิ่มผลผลิต: หุ่นยนต์ทำงานได้ต่อเนื่อง 24/7 โดยไม่ต้องหยุดพัก

o   เพิ่มความปลอดภัย: ลดความเสี่ยงในงานที่อันตราย

o   ลดต้นทุนในระยะยาว: แม้ลงทุนเริ่มต้นสูง แต่ช่วยลดค่าแรงและเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาว


ความท้าทายที่ต้องพิจารณา:

o   ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงสำหรับการติดตั้ง

o   ความต้องการฝึกอบรมพนักงานให้คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่

บทสรุป:

 

     หุ่นยนต์ขั้นสูงและ Cobots กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในสายการผลิต แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการจัดการที่สมดุลระหว่างต้นทุนและการยอมรับเทคโนโลยีนี้

About Us

Follow Us

Copyright 2024 © IS SOFTWARE