P M I I

Loading

0.01

     ในยุค4.0 โรงงานทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่เป็นการอัปเกรดเทคโนโลยี แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตและการบริหารจัดการอย่างสิ้นเชิง โดยมี Artificial Intelligence (AI) เป็นเทคโนโลยีหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้

AI คืออะไร ?

AI คืออะไร

              Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้, คิดวิเคราะห์, และตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์ โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับมาประมวลผลและหาแนวโน้ม รูปแบบ หรือคำตอบที่ดีที่สุด

ในบริบทของโรงงานอุตสาหกรรม AI จะทำหน้าที่เป็น “สมองกล” ที่คอยวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักร เซ็นเซอร์ และระบบต่างๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ วางแผน และแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

AI ในโรงงานทำงานอย่างไร?

  • รวบรวมข้อมูล: จากเซ็นเซอร์ เครื่องจักร และระบบต่างๆ
  • วิเคราะห์แนวโน้ม: หาความผิดปกติและรูปแบบที่ซ่อนอยู่
  • ทำนายอนาคต: คาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
  • แนะนำการดำเนินการ: เสนอวิธีแก้ไขหรือป้องกันที่เหมาะสม
AI ในโรงงานทำงานอย่างไร?​

5 เหตุผลสำคัญที่โรงงานยุค 4.0 ต้องใช้ AI

5

เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Production Efficiency) AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเซนเซอร์หลายพันตัวพร้อมกันเพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตได้ เช่น

  • ปรับแต่งความเร็วสายพาน ให้เหมาะสมกับปริมาณวัตถุดิบ
  • ประมาณการการใช้พลังงาน เพื่อลดต้นทุน
  • จัดการคิวการผลิต ให้เกิดการรอคอยน้อยที่สุด
6

การบำรุงรักษาแบบทำนายล่วงหน้า (Predictive Maintenance) แทนที่จะรอให้เครื่องจักรเสียแล้วค่อยซ่อมแต่ AI สามารถวิเคราะห์

  • การสั่นสะเทือนและเสียงผิดปกติ
  • ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในชิ้นส่วนสำคัญ
  • คำนวณอายุการใช้งานของอะไหล่ต่างๆและแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนเกิดการเสียหาย
  • ลดเวลาหยุดเครื่อง (Downtime) ได้มากถึง 30-50%
7

ควบคุมคุณภาพสินค้าแบบเรียลไทม์ (Real-time Quality Control) ระบบ Computer Vision ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถ

  • ตรวจจับข้อบกพร่องที่ตาคนมองไม่เห็น 
  • วิเคราะห์ความสม่ำเสมอของสีสัน รูปร่าง และขนาด แยกสินค้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์ออกจากสายการผลิต 
  • บันทึกข้อมูลเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการเกิดปัญหาในอนาคต
8

ความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยง (Safety and Risk Management) AI ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เช่น

  • ตรวจจับพฤติกรรมที่เสี่ยง ของพนักงาน เช่น ไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน
  • เฝ้าระวังเขตพื้นที่อันตราย และแจ้งเตือนอัตโนมัติ
  • วิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันในอนาคต
  • ควบคุมการเข้าออก ของบุคลากรในแต่ละพื้นที่
9

การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Decision Making) AI รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากทุกส่วนของโรงงานเพื่อช่วยในการพยากรณ์

  • ความต้องการ (Demand Forecasting) 
  • การจัดการสต็อกวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ 
  • การวางแผนการผลิตที่ตอบสนองตลาดได้ดีขึ้น 
  • วิเคราะห์ต้นทุนแบบเรียลไทม์เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

AI ในโรงงานสามารถช่วยลด Downtime จริงหรือ?

หลักการทำงานของ AI ในการลด Downtime

  1. การตรวจจับสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า AI วิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ 
  • การสั่นสะเทือน (Vibration): ตรวจจับความผิดปกติของแบริ่ง หรือชิ้นส่วนที่หมุน
  • อุณหภูมิ (Temperature): เตือนเมื่อเครื่องจักรร้อนผิดปกติ
  • กระแสไฟฟ้า (Current): บ่งบอกถึงปัญหาของมอเตอร์
  • เสียง (Sound): ตรวจจับเสียงผิดปกติจากเครื่องจักร
  • ความดัน (Pressure): ติดตามระบบไฮดรอลิกและนิวเมติก
  1. การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis)
  • เปรียบเทียบข้อมูลปัจจุบันกับข้อมูลในอดีต
  • หาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติ
  • คำนวณอายุการใช้งานที่เหลืออยู่ของชิ้นส่วน (RUL – Remaining Useful Life)
  • สร้างแบบจำลองการเสื่อมสภาพของเครื่องจักร
  1.  การแนะนำการบำรุงรักษาที่เหมาะสม
  • กำหนดเวลาการบำรุงรักษาที่เหมาะสมที่สุด
  • แนะนำวิธีการซ่อมบำรุงที่มีประสิทธิภาพ
  • จัดลำดับความสำคัญของงานบำรุงรักษา
  • เตรียมอะไหล่และทรัพยากรล่วงหน้า

Autonomous Maintenance (AM) - ให้คนงานดูแลเครื่องได้เอง

           AM เป็นแนวคิดที่ให้คนงานที่ใช้เครื่องจักรเป็นคนดูแลและบำรุงรักษาเครื่องจักรเบื้องต้นซึ่ง AI ช่วยให้ระบบนี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AI ช่วย AM อย่างไร?

  • สร้างคู่มือดิจิทัล: แนะนำขั้นตอนการตรวจเช็คแบบ Step-by-Step
  • ระบบการเรียนรู้: ฝึกอบรมคนงานผ่านแอปพลิเคชัน
  • การตรวจสอบคุณภาพ: AI ช่วยตรวจสอบว่าการบำรุงรักษาถูกต้อง
  • การติดตามผล: วัดประสิทธิภาพการทำงานของคนงาน

ประโยชน์ของ AM + AI

  • ลดการพึ่งพาช่างเฉพาะทาง
  • เพิ่มความรู้และทักษะให้กับคนงาน
  • ลดเวลาในการรอช่างมาซ่อม

การเตรียมความพร้อมของโรงงาน

การนำ AI มาใช้ในโรงงานต้องเตรียมพร้อมในหลายด้าน

  1. ด้านเทคโนโลยี
  • การติดตั้งเซ็นเซอร์และระบบเก็บข้อมูล
  • ระบบเครือข่ายและการประมวลผลข้อมุล
  • โครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ที่เพียงพอ
  1. ด้านบุคลากร
  • การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ
  • การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการทำงาน
  • การสร้างทีมงานที่รองรับเทคโนโลยีใหม่
  1. ด้านการจัดการ
  • การวางแผนและจัดสรรงบประมาณ
  • การกำหนดเป้าหมายและวัดผล
  • การสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน
1

           AI ในโรงงานยุค 4.0 ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้โรงงานไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน การเปลี่ยนจากการ “รอเสีย” เป็น “ป้องกันก่อนเสีย” ด้วย AI จะช่วยให้โรงงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน  5 เหตุผลสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า AI เป็นสิ่งจำเป็น และหลักฐานเชิงประจักษ์ ที่ยืนยันว่า AI สามารถลด Downtime ได้จริง ล้วนชี้ให้เห็นทิศทางเดียวกัน คือ โรงงานที่ไม่ปรับตัวจะถูกทิ้งห่าง          การลงทุนใน AI วันนี้ คือการลงทุนในอนาคตของธุรกิจ เพราะโรงงานที่ปรับตัวช้า จะถูกทิ้งห่างโดยคู่แข่งที่เคลื่อนไหวเร็วกว่า

 

 

อยากสัมผัสประสบการณ์จริง

มาเจอกันในงานสัมมนา “THE NEXT ERA OF MAINTENANCE ”
“จาก Reactive สู่ Proactive: ยกระดับมาตרฐานเครื่องจักรด้วยพลัง AI + AM”

📅 วันอังคารที่ 30 กันยายน 2568
🕐 เวลา 13:00 – 17:30 น.
📍 อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2
💰 เข้าร่วมฟรี! (เพียง 30 ที่นั่งเท่านั้น)

 

🏆 พิเศษสุด! โอกาสได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 15 โรงงาน เข้าร่วมโครงการ Pilot “การยกระดับเครื่องจักรด้วย AI” ก่อนใคร

มาร่วมเปลี่ยนอนาคตโรงงานของคุณไปด้วยกัน!

About Us

Follow Us

Copyright 2024 © IS SOFTWARE